สินค้าจากต่างประเทศ นับเป็นหนึ่งในไอเท็มที่ดึงดูดใจลูกค้าได้ดีเสมอ ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่แตกต่างไปจากสินค้าในประเทศไทย อีกทั้งบางผลิตภัณฑ์ยังมีความโดดเด่นในด้านคุณภาพและดีไซน์จนหาตัวจับได้ยาก ความพิเศษนี้เอง กลายเป็นจุดขายที่ตอบโจทย์ตลาดที่ต้องการความแปลกใหม่ ไม่เหมือนใครได้อย่างดี ทำให้ผู้ประกอบการต่างมองเห็นโอกาสการนำเข้าสินค้า เพื่อมานำเสนอให้คนไทยได้รู้จักกัน ทว่าโอกาสทางธุรกิจนั้นก็อาจหยุดชะงัก เมื่อหลายคนมีความกังวลและไม่รู้ว่าต้องทำขั้นตอนการนำเข้าสินค้าที่ยุ่งยากนี้อย่างไร วันนี้ Freight Rangers จะขอแนะนำขั้นตอนการนำเข้าที่จำเป็น พร้อมสูตรลัดที่จะทำให้ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของธุรกิจนำเข้าสินค้าได้ง่าย ๆ แบบหายห่วงและไร้กังวล

ภาพรวมของธุรกิจนำเข้าสินค้า

ภาพรวมของธุรกิจนำเข้าสินค้านั้นอาจบอกได้ว่า สินค้าส่วนใหญ่ที่คนนำเข้ามามักจะเน้นไปที่ของที่มีต้นทุนถูก ดังนั้น สินค้าจำนวนมากที่มีการนำเข้ามาจึงไม่พ้นจะเป็นผลิตภัณฑ์จากแดนมังกรอย่างประเทศจีนนั่นเอง โดยสินค้าเหล่านี้จะมีการขนส่งทั้งทางอากาศหรือไม่ก็เป็นทางอากาศ และมักส่งตรงจากทางโรงงานเพื่อให้ได้สินค้าที่มีต้นทุนถูกลงกว่าตลาดทั่วไป ในการขนส่งจะต้องใช้เอกสารสำคัญ ได้แก่

ใบขนสินค้าขาเข้า
ใบตราส่งสินค้า
บัญชีราคาสินค้า
บัญชีรายละเอียดบรรจุหีบห่อ
ใบอนุญาต หรือหนังสืออนุญาตสำหรับสินค้าควบคุมการนำเข้า
ใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า (กรณีขอลดอัตราอากร)
เอกสารอื่น ๆ เช่น แค็ตตาล็อก เอกสารแสดงส่วนผสม เป็นต้น

ขั้นตอนการนำเข้าสินค้า

ก่อนไปสู่ขั้นตอนการนำเข้าสินค้า ผู้ประกอบการควรเช็กก่อนว่าสินค้าของตนเข้าพิกัดไหน เป็นสินค้าต้องกำกัดหรือไม่ สามารถใช้สิทธิยกเว้นหรือลดอัตราการนำเข้าจากเขตการค้าเสรี (Free Trade Area : FTA) ได้หรือเปล่า เพื่อให้การเตรียมเอกสารก่อนนำเข้าเป็นไปได้อย่างถูกต้อง โดยหลังจากการตรวจสอบพิกัดสินค้าเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถทำตามขั้นตอนตามรายละเอียดดังต่อไปนี้

ยื่นข้อมูลใบขนสินค้า

การยื่นข้อมูลใบขนสินค้าเกิดขึ้นหลังจากที่ผู้ประกอบการได้จัดเตรียมเอกสารสำคัญข้างต้นเรียบร้อย โดยต้องนำข้อมูลทั้งหมดนั้นมากรอกลงในระบบ Service Counter เพื่อแปลงข้อมูลของสินค้าเข้าสู่ระบบของกรมศุลกากร

และหลังจากที่ให้ข้อมูลกับกรมศุลกากรแล้ว ก็จะต้องมีการตรวจสอบอีกครั้ง เพื่อเช็กความถูกต้องของชื่อและที่อยู่ของผู้นำเข้า เลขประจำตัวผู้เสียภาษี พิกัดอัตราศุลกากร และราคาของสินค้า ถ้าเห็นว่ามีจุดที่ผิด เอกสารก็จะถูกส่งกลับมาแก้ไข และเมื่อข้อมูลมีความถูกต้องครบถ้วนแล้ว ก็จะได้เลขที่ขนสินค้าเข้ามาครอบครอง

การตรวจสอบพิสูจน์ข้อมูล

การตรวจสอบพิสูจน์ข้อมูลอย่างละเอียด คือ ขั้นตอนต่อมาที่ผู้ประสงค์จะนำเข้าสินค้าต้องเผชิญ โดยจะมีการสำรวจสินค้าในขั้นตอนนี้อย่างละเอียดตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ของกรมศุลกากร ในขั้นนี้จะแบ่งใบขนสินค้าออกเป็น 2 ประเภทด้วยกัน คือ

ใบขนสินค้าขาเข้าประเภทที่ไม่ต้องตรวจสอบพิธีการ (Green Line) : ถ้าสินค้าอยู่ในประเภทนี้ ผู้ประกอบการก็สามารถนำใบขนสินค้าขาเข้า ไปชำระภาษีอากรและวางประกันที่เกี่ยวข้องที่กรมศุลกากรได้เลย
ใบขนสินค้าขาเข้าประเภทที่ต้องตรวจสอบพิธีการ (Red Line) : ในส่วนของใบขนสินค้าประเภทนี้ จะต้องนำใบขนสินค้าไปติดต่อกับหน่วยงานประเมินอากรของท่านที่นำเข้าสินค้านั้นก่อน จนกลายเป็นสินค้าแบบ Green Line

การตรวจและการปล่อยสินค้า

การตรวจและการปล่อยสินค้า หลังจากได้ดำเนินการจ่ายเงินค่าภาษีอาการเรียบร้อยแล้ว ทุกอย่างก็จะถูกส่งต่อไปที่ท่าเรือ โดยจะมีการตรวจสอบข้อมูลของสินค้าอีกครั้ง และในบางกรณีก็อาจมีการเปิดสินค้าเพื่อตรวจสอบอีกได้

หมดกังวลทุกปัญหา ด้วยบริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ

หมดกังวลทุกปัญหา ด้วยบริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ จากบริษัทที่ชำนาญในแวดวงโลจิสติกส์มากว่า 10 ปี อย่าง Freight Rangers เพราะเราจะช่วยดูแลและให้คำปรึกษา พร้อมทั้งดำเนินการนำเข้าสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ ทันเวลา และคุ้มค่ากว่าใคร ทั้งยังสามารถเลือกได้ทั้งบริการขนส่งแบบ Air Freight หรือการขนส่งทางอากาศ และ Sea Freightหรือการขนส่งทางเรืออีกด้วย เรียกได้ว่าทั้งสะดวก มีประสิทธิภาพ และครอบคลุมทุกความต้องการที่สุด

อย่ารอ! ให้โอกาสทางธุรกิจนั้นหลุดมือไป ที่ Freight Rangers เราให้บริการลูกค้าสัมพันธ์ที่ยืดหยุ่นและเชื่อถือได้ตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน พร้อมให้ทุกท่านติดต่อมาได้ทันทีที่ต้องการ