อยากส่งของไปต่างประเทศ แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไงดีใช่ไหม? ติดอยู่กับคำถามมากมายจนสุดท้ายก็ไม่ได้ส่งสักที เพราะคิดว่ามันยุ่งยากซับซ้อนไปหมด บทความนี้คือคู่มือที่จะเปลี่ยนเรื่องยากให้กลายเป็นเรื่องง่าย! ให้คุณส่งของไปต่างประเทศได้แบบมือโปรตั้งแต่ครั้งแรก ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป เพราะเราได้รวบรวมทุกเรื่องที่ต้องรู้มาให้คุณแล้ว ทั้งเอกสารที่ต้องเตรียม ค่าใช้จ่าย การคำนวณภาษี และวิธีการเลือกบริษัทขนส่งที่ใช่ อ่านจบรับรองว่าคุณจะกลายเป็นมือใหม่ที่พร้อมลุยทันที

สารบัญ
- 1. ตรวจสอบกฎระเบียบของประเทศปลายทางก่อนส่งของ
- 2. รู้ก่อนจ่าย! ค่าใช้จ่ายในการส่งของไปต่างประเทศมีอะไรบ้าง
- 3. เตรียมเอกสารสำหรับการส่งของไปต่างประเทศให้พร้อม
- 4. เข้าใจเรื่องอากรศุลกากรและภาษีก่อนส่งสินค้า
- 5. วิธีบรรจุภัณฑ์และติดฉลากอย่างถูกต้องเพื่อส่งของต่างประเทศ
- 6. เลือกบริษัทส่งของไปต่างประเทศที่ไว้ใจได้จากประเทศไทย
6 ขั้นตอนง่าย ๆ ในการส่งของไปต่างประเทศ
หมดปัญหาส่งของไปต่างประเทศไม่เป็น แค่ทำตาม 6 Step ตามนี้ ก็ส่งของได้สบายหายห่วง
1.ตรวจสอบกฎระเบียบและข้อห้ามของประเทศปลายทาง
ก่อนจะส่งของ ต้องรู้ก่อนว่าประเทศที่เราจะส่งไปมีกฎอะไรบ้าง เพราะกฎหมายนำเข้าของแต่ละประเทศไม่เหมือนกัน การละเลยขั้นตอนนี้อาจทำให้สินค้าของคุณถูกกัก ถูกตีกลับ หรือโดนปรับได้เลย สิ่งที่คุณต้องตรวจสอบมีดังนี้
- สิ่งของต้องห้ามและสิ่งของควบคุม แต่ละประเทศมีรายชื่อของที่ห้ามนำเข้าหรือจำกัดการนำเข้าอย่างเข้มงวด เช่น ยาเสพติด วัตถุอันตราย หรือของละเมิดลิขสิทธิ์ คุณต้องตรวจสอบเรื่องของต้องห้ามส่งไปต่างประเทศให้ดีจากเว็บไซต์กรมศุลกากรของประเทศปลายทาง หรือสอบถามกับบริษัทขนส่งที่เราเลือกใช้ให้ชัดเจน เพราะหากละเมิดอาจมีผลต่อขั้นตอนอากรศุลกากรและทำให้การนำเข้าสินค้าล่าช้า
- เอกสารที่จำเป็นสำหรับการนำเข้า บางประเทศอาจต้องการเอกสารเฉพาะเจาะจง เช่น ใบกำกับสินค้า (Invoice), ใบรายการบรรจุหีบห่อ (Packing List), หรือ ใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า (Certificate of Origin) เพื่อใช้ประกอบการนำเข้า
- ข้อกำหนดด้านบรรจุภัณฑ์และการติดฉลาก อย่าคิดว่าส่งของแบบไหนก็ได้ บางประเทศมีข้อกำหนดพิเศษเกี่ยวกับวัสดุที่ใช้ในการแพ็ค หรือภาษาที่ต้องใช้บนฉลากสินค้า ต้องเช็กให้ละเอียดก่อน

2.ส่งของไปต่างประเทศมีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง
การเข้าใจเรื่อง ค่าส่งของไปต่างประเทศ จะช่วยให้คุณวางแผนงบประมาณได้ถูกต้องและไม่เจอกับค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด โดยค่าใช้จ่ายหลัก ๆ ที่คุณต้องคำนึงถึง ได้แก่
- ค่าขนส่ง ค่าบริการหลักที่คำนวณจากน้ำหนัก ขนาด และประเทศปลายทาง ซึ่งแต่ละบริษัทก็มีราคาต่างกัน
- ค่าธรรมเนียมเชื้อเพลิง (Fuel Surcharge) เป็นค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่คิดตามราคาน้ำมันในตลาดโลก
- ค่าธรรมเนียมพื้นที่ห่างไกล (Remote Area Surcharge) หากที่อยู่ผู้รับอยู่ในพื้นที่ที่เข้าถึงยากหรือห่างไกลจากตัวเมือง อาจมีค่าใช้จ่ายส่วนนี้เพิ่มขึ้น
- ภาษีและอากรศุลกากร (Duties and Taxes) ค่าใช้จ่ายที่ผู้รับต้องจ่ายเมื่อสินค้าไปถึงประเทศปลายทาง โดยอัตราการเก็บ ภาษีนำเข้า จะแตกต่างกันไปตามประเภทสินค้าและประเทศ
- ค่าบริการเสริมอื่น ๆ เช่น ค่าประกันสินค้า ค่าเอกสาร หรือค่าพิธีการศุลกากร

3.เตรียมเอกสารสำคัญให้พร้อม
การเตรียม เอกสารส่งของไปต่างประเทศ ให้ครบถ้วนและถูกต้องคือสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้การส่งของของคุณราบรื่น ไม่ติดขัดที่ด่านศุลกากร เอกสารหลัก ๆ ที่ต้องเตรียมมีดังนี้
- ใบตราส่งสินค้า (Shipping Label / Waybill) เอกสารสำคัญจากบริษัทขนส่งที่คุณต้องกรอกรายละเอียดผู้ส่ง ผู้รับ และข้อมูลพัสดุให้ครบถ้วน
- ใบกำกับสินค้า (Commercial Invoice) ใช้สำหรับการส่งของเพื่อการค้า ต้องระบุรายละเอียดสินค้า จำนวน ราคา และมูลค่ารวมให้ชัดเจน
- บัญชีรายการบรรจุภัณฑ์ (Packing List) เอกสารที่บอกรายละเอียดของสิ่งของทั้งหมดในกล่อง
- เอกสารอื่น ๆ ขึ้นอยู่กับประเภทสินค้าและกฎระเบียบของประเทศปลายทาง เช่น ใบอนุญาตส่งออก/นำเข้า หรือใบรับรองสุขภาพ
เคล็ดลับ: ก่อนส่งของจริง ให้คุณสอบถามบริษัทขนส่งว่าต้องใช้เอกสารอะไรบ้างสำหรับประเทศปลายทางที่คุณจะส่งไป และอย่าลืมทำสำเนาเอกสารทุกชุดเก็บไว้ด้วย

4.แพ็คสินค้าให้แน่นหนาและปลอดภัย
วิธีแพ็คของส่งต่างประเทศ ให้แน่นหนาและปลอดภัยเป็นหัวใจสำคัญของการส่งของ เพราะจะช่วยป้องกันความเสียหายระหว่างการขนส่งได้ เคล็ดลับการแพ็คสินค้าให้ปลอดภัย เช่น
- เลือกกล่องที่เหมาะสม: กล่องควรมีขนาดพอดีกับสินค้า ไม่เล็กหรือใหญ่เกินไป
- ใช้วัสดุกันกระแทก: ห่อหุ้มของแต่ละชิ้นด้วยบับเบิ้ลแรป โฟม หรือกระดาษหนังสือพิมพ์ เพื่อป้องกันการแตกหัก
- ปิดผนึกให้แน่นหนา: ใช้เทปกาวที่แข็งแรงปิดกล่องให้สนิท 2-3 รอบ

5.ติดฉลากให้ถูกต้องและชัดเจน
การแพ็กของส่งต่างประเทศให้ปลอดภัยและถูกต้องเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะช่วยลดความเสี่ยงที่ของจะเสียหายระหว่างเดินทาง ก่อนอื่นให้เลือกกล่องที่พอดีกับของที่คุณจะส่ง ไม่ใหญ่ไปจนของกลิ้งไปมา หรือเล็กไปจนกล่องปริแตก จากนั้นให้ห่อของแต่ละชิ้นด้วยวัสดุกันกระแทก เช่น บับเบิ้ลกันกระแทก กระดาษ หรือโฟม เพื่อป้องกันของแตกหัก โดยเฉพาะของที่บอบบาง และสุดท้ายปิดผนึกกล่องให้แน่นหนาด้วยเทปกาวคุณภาพดี สัก 2-3 รอบเพื่อความชัวร์
สำหรับขั้นตอนการติดฉลาก ให้แปะใบปะหน้าพัสดุ (Shipping Label) บนกล่องด้านที่เรียบที่สุด และต้องแน่ใจว่าบาร์โค้ดชัดเจนและสามารถสแกนได้ง่าย นอกจากนี้เพื่อความอุ่นใจ

6.เลือกบริษัทขนส่งที่เชื่อถือได้
การเลือก บริษัทขนส่งระหว่างประเทศ ที่ดีเป็นหัวใจสำคัญที่จะช่วยให้การส่งของของคุณราบรื่นไม่มีสะดุด ควรพิจารณาจากปัจจัยสำคัญเหล่านี้
- ประสบการณ์และความน่าเชื่อถือ: บริษัทควรมีประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญในการส่งของไปต่างประเทศอย่างแท้จริง
- ความหลากหลายของบริการ: มีตัวเลือกการขนส่งที่ตอบโจทย์ เช่น ส่งของทางอากาศหรือส่งของทางเรือ และบริการอื่น ๆ
- ระยะเวลาและราคา: เปรียบเทียบระยะเวลาในการจัดส่งและค่าใช้จ่ายให้เหมาะสมกับความต้องการของคุณ
Freight Ranger เป็นบริษัทขนส่งสินค้าไปต่างประเทศที่น่าเชื่อถือ มีบริการครบวงจรทั้งการขนส่งทางอากาศ (Air Freight), ทางทะเล (Sea Freight) และบริการอื่น ๆ สำหรับธุรกิจชั้นนำมากมาย เราพร้อมให้คำปรึกษาเพื่อให้การส่งของไปต่างประเทศเป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ
ทำไมต้องเลือกส่งของไปต่างประเทศกับ Freight Rangers?
การ ส่งพัสดุไปต่างประเทศ จะเป็นเรื่องง่ายและสะดวกสบายเมื่อใช้บริการของ Freight Rangers เพราะเราดูแลให้ตั้งแต่ต้นจนจบ เพียงแค่ทำตามขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้
- เตรียมข้อมูลให้พร้อม รวบรวมข้อมูลสำคัญของสินค้าให้ครบถ้วน เช่น ที่อยู่ผู้ส่ง-ผู้รับ, ประเภทสินค้า, น้ำหนัก, ขนาด, มูลค่า และเอกสารที่จำเป็น
- ขอใบเสนอราคา ติดต่อเราผ่านเว็บไซต์ โทรศัพท์ หรือ Line Official เพื่อแจ้งรายละเอียดสินค้าและประเทศปลายทาง จากนั้นเจ้าหน้าที่จะคำนวณราคาและเสนอทางเลือกการจัดส่งที่เหมาะสมให้คุณ ไม่ว่าจะเป็นการ ส่งของไปอเมริกา หรือประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก
- ยืนยันการใช้บริการ เมื่อคุณพอใจในราคาและบริการที่ได้รับ ก็สามารถยืนยันการใช้บริการกับเจ้าหน้าที่ได้ทันที
- แพ็กสินค้าและติดฉลาก แพ็กสินค้าให้เรียบร้อยและปลอดภัยด้วยกล่องที่แข็งแรง พร้อมติดฉลากที่แสดงชื่อ-ที่อยู่ผู้ส่ง-ผู้รับให้ชัดเจน
- ชำระค่าบริการและรอรับเลขพัสดุ ชำระเงินตามใบเสนอราคา และเมื่อสินค้าถูกจัดส่งเรียบร้อยแล้ว คุณจะได้รับเลขพัสดุสำหรับติดตามสถานะ
- ติดตามสถานะพัสดุ สามารถเช็กสถานะการจัดส่งได้ตลอดเวลาผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของ Freight Rangers
ข้อควรระวัง
- สินค้าต้องห้าม: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสินค้าที่คุณจะส่งไม่เป็นสินค้าต้องห้ามของประเทศปลายทาง
- ค่าธรรมเนียมปลายทาง: เตรียมพร้อมสำหรับค่าธรรมเนียมหรือภาษีที่อาจเกิดขึ้นเมื่อสินค้าเดินทางไปถึงประเทศปลายทาง
- การซื้อประกัน: หากต้องการความอุ่นใจเป็นพิเศษ ควรพิจารณาซื้อประกันสินค้าเพิ่มเติมเพื่อคุ้มครองความเสียหายหรือสูญหายที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการขนส่ง
หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถติดต่อสอบถาม Freight Rangers เพื่อขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญได้เลย
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
ส่งของไปต่างประเทศต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง?
การส่งของไปต่างประเทศต้องมีเอกสารที่จำเป็น เพื่อให้ทุกขั้นตอนราบรื่นและถูกต้องตามกฎหมายของทั้งประเทศต้นทางและปลายทาง เอกสารหลัก ๆ ที่คุณต้องเตรียมมีดังนี้
- ใบตราส่งสินค้า (Air Waybill – AWB หรือ Bill of Lading – B/L)
- บัญชีราคาสินค้า (Commercial Invoice)
- เอกสารแสดงรายละเอียดการบรรจุ (Packing List)
- เอกสารอนุญาตส่งออก/นำเข้า (Export/Import License)
- ใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า (Certificate of Origin – C/O)
- เอกสารอื่น ๆ ที่อาจจำเป็นสำหรับสินค้าบางประเภท
ของต้องห้ามที่ไม่สามารถส่งได้มีอะไรบ้าง?
ของต้องห้ามส่งไปต่างประเทศ มีอะไรบ้าง?
เพื่อความปลอดภัยและเป็นไปตามข้อกำหนดสากล สินค้าเหล่านี้เป็นของต้องห้ามในการส่งไปต่างประเทศ เช่น
- วัตถุอันตราย: ยาเสพติด, อาวุธ, วัตถุระเบิด, สารไวไฟ, สารพิษ, สารกัดกร่อน, วัตถุกัมมันตรังสี, แบตเตอรี่ลิเธียมที่ไม่มีการแพ็กที่ถูกต้อง
- สิ่งผิดกฎหมาย/ผิดศีลธรรม: สื่อลามกอนาจาร, สินค้าปลอมแปลง, ของเลียนแบบ
- สิ่งมีชีวิต: สัตว์และพืชมีชีวิต
- อาหารและยา: อาหารและยาบางประเภท
- ของมีค่า: เงินสด, ทองคำ, อัญมณี, หลักทรัพย์
- อื่น ๆ: แม่เหล็กแรงสูง, วัตถุมีคมที่ไม่ได้ห่อหุ้มอย่างปลอดภัย, เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ค่าขนส่งคำนวณจากอะไร?
ค่าขนส่งจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ได้แก่
- น้ำหนักและขนาดของพัสดุ
- ระยะทาง และ ประเทศปลายทาง
- ประเภทบริการขนส่ง ส่งของทางแอร์ หรือ ส่งของทางเรือ
- ค่าธรรมเนียมอื่น ๆ เช่น ค่าธรรมเนียมเชื้อเพลิง, ค่าธรรมเนียมท่าเรือ/สนามบิน, และ ภาษีนำเข้า ในประเทศปลายทาง
ต้องทำประกันสินค้าหรือไม่?
การทำประกันสินค้าไม่ได้บังคับ แต่เป็นทางเลือกที่ช่วยเพิ่มความอุ่นใจได้มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับสินค้าที่มีมูลค่าสูง เพราะประกันจะคุ้มครองกรณีที่เกิดความเสียหายหรือสูญหายระหว่างการขนส่ง
สิ่งสำคัญที่สุดคือการแพ็คของส่งต่างประเทศให้แน่นหนาปลอดภัยตั้งแต่แรก โดยเลือกกล่องที่แข็งแรงและขนาดพอดีกับสินค้า ใช้บับเบิ้ลกันกระแทกหรือวัสดุอื่น ๆ ห่อหุ้มสินค้าแต่ละชิ้น และเติมช่องว่างในกล่องให้เต็ม เพื่อไม่ให้สินค้าเคลื่อนที่ไปมาระหว่างขนส่ง หากสินค้าแตกหักง่าย ควรติดป้าย “ระวังแตก” หรือ “Fragile” ให้ชัดเจนด้วย