บริการ Sea Freight (ขนส่งทางเรือ) และชิปปิ้งครบวงจร โดย Freight Rangers

Sea Freight

Freight Rangers ไม่ได้เป็นเพียงแค่ผู้ให้บริการขนส่งสินค้า แต่ Freight Forwarder อย่างเราเป็นพาร์ทเนอร์ทางการค้าที่มีประสบการณ์ยาวนานกว่า 10 ปีในวงการโลจิสติกส์ ที่ร้อมดูแลธุรกิจของคุณด้วยบริการขนส่งทางเรือ (Sea Freight) อย่างครบวงจร ไม่ว่าคุณจะต้องการนำเข้าส่งออกสินค้าประเภทใด ที่นี่มีทีมผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาตั้งแต่การเลือกตู้คอนเทนเนอร์ แบบ FCL / LCL การประเมินค่าระวางเรือ ไปจนถึงการดำเนินการเดินพิธีการศุลกากร รวมถึงประสานงานกับชิปปิ้ง เพื่อให้สินค้าของคุณส่งตรงถึงที่หมายอย่างปลอดภัย ตรงเวลา ในราคาที่คุ้มค่าที่สุด

Sea Freight คืออะไร? ทำไมถึงเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับธุรกิจ?

ขนส่งทางเรือ (Sea Freight) คือ รูปแบบการขนส่งที่ใช้เรือบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่ในการเคลื่อนย้ายสินค้าข้ามประเทศ เป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมสูงสุดสำหรับธุรกิจนำเข้าส่งออก เนื่องจากมีความคุ้มค่าในเรื่องของต้นทุนที่ต่ำกว่าการขนส่งทางอากาศมาก โดยเฉพาะเมื่อขนส่งสินค้าปริมาณที่เยอะ หรือสินค้าขนาดใหญ่ นอกจากนี้ Sea Freight ยังรองรับการขนส่งผ่านตู้คอนเทนเนอร์ได้หลากหลาย และครอบคลุมเส้นทางไปยังท่าเรือแหลมฉบัง รวมถึงท่าเรือหลักทั่วโลก ทำให้ธุรกิจสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพและสร้างกำไรได้อย่างมั่นคง

Freight Rangers

ธุรกิจแบบไหน? ที่ควรเลือกใช้บริการขนส่งทางเรือ (Sea Freight)

หากสงสัยว่า บริการการขนส่งทางทะเล เหมาะกับใคร จริง ๆ แล้วการขนส่งทางทะเลเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าทั้งสำหรับธุรกิจและบุคคลทั่วไป ได้แก่

  • บริษัทผู้ผลิตหรือผู้ส่งออกที่ส่งออกสินค้าปริมาณมากไปยังต่างประเทศ
  • ธุรกิจที่พึ่งพาการนำเข้าซัพพลายเออร์จากต่างประเทศสามารถใช้การขนส่งทางทะเลเพื่อการเคลื่อนย้ายสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า
  • บุคคลหรือครอบครัวที่ย้ายถิ่นฐานไปต่างประเทศสามารถใช้การขนส่งทางทะเลในการขนส่งของใช้ในบ้านและของส่วนตัว

บริการ Sea Freight ของเราครอบคลุมรูปแบบไหนบ้าง?

ที่ Freight Rangers เรามีบริการขนส่งระหว่างประเทศทางเรือที่ตอบโจทย์และออกแบบมาได้แบบตรงทุกความต้องการของธุรกิจคุณ ดังนี้
1. บริการ FCL (Full Container Load): บริการเหมาตู้คอนเทนเนอร์ เหมาะสำหรับผู้ส่งออกที่มีสินค้าจำนวนมาก ต้องการความเป็นส่วนตัว และความรวดเร็วในการขนถ่ายสินค้า
2. บริการ LCL (Less than Container Load): บริการฝากส่งแบบแชร์พื้นที่ในตู้ เหมาะสำหรับ SME หรือสินค้าจำนวนไม่มาก ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายโดยไม่ต้องเหมาทั้งตู้
3. บริการ Special Cargo: รองรับการขนส่งสินค้าขนาดใหญ่พิเศษ เครื่องจักร หรือสินค้าที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ
4. บริการ Customs Clearance: บริการ เดินพิธีการศุลกากร เบ็ดเสร็จ เพื่อความราบรื่นในการนำเข้าและส่งออก

Freight Rangers

ทำไมต้องเลือกส่งของทางเรือกับ Freight Rangers?

สำหรับเหตุผลที่ควรเลือกบริการขนส่งทางทะเลจาก Freight Rangers มีดังนี้

  • Freight Rangers มีประสบการณ์กว่า 10 ปีในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ ทำให้คุณได้รับประสบการณ์การขนส่งทางทะเลที่ราบรื่นและมีประสิทธิภาพ
  • เรามีเครือข่ายที่มั่นคงกับพันธมิตรกับท่าเรือในทั่วโลก ทำให้การเคลื่อนย้ายสินค้าทั่วทุกทวีปเป็นไปอย่างราบรื่น
  • เราให้บริการที่คุ้มค่าสำหรับความต้องการของคุณ ที่มาพร้อมความคุ้มค่าของต้นทุนโดยยังคงรักษาคุณภาพไว้ได้
  • ทีมงานของเราเข้าใจความต้องการของคุณ และพร้อมปรับการให้บริการให้เข้ากับความต้องการของคุณได้อย่างลงตัว
  • เราให้บริการ 24 ชั่วโมง เพื่อให้คุณสามารถเข้าถึงความช่วยเหลือได้ตลอดเวลา
Freight Rangers

ขั้นตอนและเอกสารที่ต้องใช้ในการขนส่งทางเรือ มีอะไรบ้าง?

การเตรียมเอกสารให้ถูกต้องจะช่วยลดความล่าช้าที่ท่าเรือปลายทาง โดยเอกสารหลัก ๆ ที่ต้องใช้ มักจะประกอบไปด้วย

  • เอกสารแสดงมูลค่าสินค้าเพื่อใช้คำนวณภาษี (Commercial Invoice)
  • รายละเอียดรายการสินค้า บรรจุภัณฑ์ และน้ำหนัก (Packing List)
  • ใบตราส่งสินค้าทางเรือ ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญในการแสดงกรรมสิทธิ์ (Bill of Lading (B/L))
  • ใบรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า กรณีใช้สิทธิลดหย่อนภาษี (Certificate of Origin)

ทั้ง 4 ขั้นตอนนี้ ที่ Freight Forwarder อย่างเรา พร้อมให้คำแนะนำและตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารเหล่านี้ เพื่อให้ขั้นตอนชิปปิ้งและศุลกากรผ่านไปได้แบบไม่ติดขัดใด ๆ

เปรียบเทียบชัดๆ Sea Freight vs Air Freight แบบไหนเหมาะกับคุณ?

การเปรียบเทียบระหว่าง Sea Freight และ Air Freight ในมุมของของ Freight Rangers นั้นมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน เพราะถ้าหากธุรกิจของคุณเน้นเรื่องความคุ้มค่า Sea Freight คือทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด เพราะมีค่าใช้จ่ายที่ไม่สูงมาก แต่ในขณะเดียวกันกลับสามารถจุหรือบรรทุกสิ่งของได้ทีละมาก ๆ หรือแทบจะไม่จำกัดขนาดและน้ำหนัก แต่ก็ต้องแลกมาด้วยกับระยะเวลาที่ค่อนข้างนาน ประมาณ 15-45 วัน ในส่วนของ Air Freight จะตอบโจทย์เรื่องความรวดเร็วเร่งด่วน โดยใช้เวลาเพียง 1-5 วัน แต่ก็มีข้อจำกัดในเรื่องขนาดของสินค้าและมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่ามาก โดยจะคิดคำนวณตามน้ำหนักจริงหรือปริมาตรของสินค้า

ปัจจัยเปรียบเทียบ (Factors) Sea Freight (ขนส่งทางเรือ) Air Freight (ขนส่งทางอากาศ)
ค่าใช้จ่าย (Cost) ประหยัด (ค่าระวางเรือ ต่ำ เหมาะกับสินค้าเยอะ) สูง (คิดตามน้ำหนักจริงหรือปริมาตร)
ระยะเวลา (Transit Time) ใช้เวลานาน (15-45 วัน ขึ้นอยู่กับเส้นทาง) รวดเร็ว (1-5 วัน)
ความจุ (Capacity) รองรับสินค้าขนาดใหญ่/หนัก ได้ไม่จำกัด (FCL / LCL) จำกัดขนาดและน้ำหนักสินค้า

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับบริการขนส่งทางเรือ (FAQ)

ค่าระวางเรือ (Freight Rate) คำนวณจากอะไรบ้าง?

ค่าระวางเรือ สามารถคำนวณได้จากปริมาณสินค้า (CBM), น้ำหนัก, เส้นทางเดินเรือ, ราคาน้ำมันในช่วงเวลานั้นๆ และรูปแบบการขนส่งที่คุณเลือก เช่นเหมาตู้คอนเทนเนอร์ (FCL) หรือแชร์ตู้คอนเทนเนอร์ (LCL)

สินค้าประเภทไหนที่นิยมส่งทางเรือมากที่สุด?

สินค้าที่นิยมส่งทางเรือ ได้แก่ สินค้าเกษตร, วัตถุดิบอุตสาหกรรม, เครื่องจักร, เฟอร์นิเจอร์ และสินค้าที่มีน้ำหนักมาก

ระยะเวลาในการขนส่งทางเรือใช้เวลานานแค่ไหน?

การขนส่งทางเรือโซนเอเชียใช้เวลา 7-15 วัน แต่ถ้าข้ามทวีปอาจจะใช้เวลาประมาณ 30-50 วัน

Freight Rangers ให้บริการเส้นทางไหนบ้าง?

Freight Rangers ให้บริการเส้นทางที่ครอบคลุมท่าเรือหลักทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นจีน, ญี่ปุ่น, อาเซียน, ยุโรป, อเมริกา และตะวันออกกลาง

Scroll to Top