ต้นไม้นานาพันธุ์ยังคงเป็นไอเท็มยอดนิยมที่หลายคนเลือกซื้อ ไม่ว่าจะเพื่อนำไปดูแลเองหรือเป็นของขวัญในโอกาสพิเศษ อีกทั้งต้นไม้จากต่างประเทศก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนรักต้นไม้ไม่แพ้ต้นไม้ไทยเลย ถึงอย่างนั้น ผู้ประกอบการหลายคนก็อาจยังลังเลในการนำเข้าต้นไม้จากต่างแดนเพราะขั้นตอนที่ซับซ้อน เนื่องจากกฎระเบียบที่เข้มงวดที่มีขึ้นเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรคและศัตรูพืช รวมถึงการคุ้มครองระบบนิเวศของประเทศ อย่างไรก็ตาม การนำเข้าต้นไม้อาจไม่ยากอย่างที่คิด วันนี้ Freight Rangers ขอแนะนำขั้นตอนการนำเข้าต้นไม้อย่างถูกต้อง พร้อมบริการ Freight Forwarder ที่จะทำให้การนำเข้าต้นไม้เป็นเรื่องง่ายขึ้น
3 ขั้นตอนนำเข้าต้นไม้
3 ขั้นตอนนำเข้าต้นไม้ง่าย ๆ จะมีอะไรบ้าง ตามมาดูกันด้านล่างนี้เลย
ตรวจสอบรายชื่อพันธุ์ไม้
ก่อนนำเข้าผู้ประกอบการจะต้องตรวจสอบรายชื่อพันธุ์ไม้ให้เรียบร้อย โดยถ้าหากมีการใช้บริการ Freight Forwarder ก็ต้องแจ้งรายละเอียดต้นไม้ให้บริษัททราบ เพื่อที่บริษัทจะได้นำข้อมูลดังกล่าวมาตรวจสอบหา HS Code ต่อไป และในส่วนอื่น ๆ ที่จะต้องตรวจสอบเพิ่มเติมก่อนจะนำเข้าก็เป็นต้นว่า
- สถานะต้นไม้ : ต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าต้นไม้ที่ต้องการนำเข้าไม่ได้อยู่ในรายชื่อพืชที่ห้ามนำเข้า และอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (CITES) โดยพืชในรายชื่อห้ามนำเข้านั้น อาจเป็นพืชที่เป็นอันตรายต่อพืชเศรษฐกิจของประเทศหรือก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมได้
- สภาพของต้นไม้ : ตรวจดูให้ดีว่าต้นไม้ที่นำเข้ามาจะต้องไม่มีเศษดิน ขุยมะพร้าว กากมะพร้าว หรือสิ่งปนเปื้อนอื่น ๆ ที่อาจนำพาโรคพืชหรือศัตรูพืชจากภายนอกเข้ามาในประเทศได้
เตรียมเอกสารนำเข้า
ต่อมาเข้าสู่การเตรียมเอกสารนำเข้า ซึ่งประกอบไปด้วย
- หนังสือรับรองสุขอนามัยพืช (Phytosanitary Certificate) ซึ่งเป็นอกสารที่ออกโดยหน่วยงานที่รับผิดชอบด้านการคุ้มครองพืชของประเทศต้นทาง เพื่อรับรองว่าต้นไม้ที่ส่งออกนั้นไม่มีโรคพืชและศัตรูพืชแฝงมาด้วย
- หนังสือรับรองส่วนขยายพันธุ์พืชว่าไม่ใช่พืช GMO
- ใบแจ้งหนี้ หรือ Invoice
- รายการบรรจุหีบห่อ หรือ Packing List
- ใบตราส่งสินค้าทางอากาศหรือทางเรือ
เตรียมตัวเพื่อนำเข้า
การเตรียมตัวเพื่อนำเข้าต้นไม้ เป็นกระบวนการที่ต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดและกฎระเบียบ เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายของประเทศ โดยสำหรับประเทศไทยแล้ว สิ่งที่ต้องเตรียมตัว ได้แก่
- การลงทะเบียนเป็นผู้นำเข้าส่งออกกับกรมศุลกากร
- การลงทะเบียนกับกรมวิชาการเกษตรเพื่อขออนุญาตนำเข้า
- การยื่นขอใบอนุญาตสินค้าในระบบ National Single Window หรือระบบ NSW (พก.5)
ข้อควรระวังเพิ่มเติม
ข้อควรระวังเพิ่มเติมเป็นอีกสิ่งที่ควรรู้นอกเหนือจากขั้นตอนข้างต้น โดยมีสิ่งที่ต้องคำนึงอยู่ 3 ประการ ได้แก่
- ควรศึกษาและตรวจสอบข้อมูลเรื่องกฎหมายและกฎระเบียบของการนำเข้าพืชอยู่เสมอ เนื่องจากกฎต่าง ๆ อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ จึงต้องทวนความรู้ตัวเองให้เป็นปัจจุบันก่อนดำเนินการใด ๆ
- คำนวณค่าใช้จ่ายแฝงที่อยู่ในการดำเนินงานขั้นตอนต่าง ๆ ให้ดี เพราะการนำเข้าพืชอาจไม่ได้มีแค่ค่าต้นไม้และค่าขนส่ง แต่ยังรวมถึงค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เช่น ค่าดำเนินการทำใบอนุญาต ค่าตรวจสอบ และค่าภาษี เป็นต้น
- กระบวนการนำเข้าต้นไม้ อาจใช้เวลามากน้อยขึ้นอยู่กับพันธุ์พืชและประเทศต้นทางที่ต่างกัน ดังนั้นควรมีการวางแผนและเผื่อเวลาให้ดี
คำแนะนำอื่น ๆ
นอกจากที่กล่าวไปข้างต้นแล้ว ก็ยังมีคำแนะนำอื่น ๆ ที่จะช่วยให้การนำเข้าต้นไม้ราบรื่นมากขึ้น คือ
- แนะนำให้เตรียมเอกสารให้ถูกต้องและครบถ้วนก่อนดำเนินการ จะได้ทำตามขั้นตอนได้อย่างไม่มีสะดุด
- หากต้องการความช่วยเหลือหรือต้องการดำเนินการอย่างรวดเร็ว การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เช่น บริษัทที่ทำเรื่องการนำเข้า-ส่งออกพืชอยู่แล้วก็นับเป็นวิธีที่น่าสนใจ เพื่อย่นระยะเวลาการลองผิดลองถูก และให้ทีมที่มีประสบการณ์ช่วยดูแลต้นไม้เราได้อย่างดี เนื่องจากต้นไม้เป็นสิ่งมีชีวิต จึงต้องการการบรรจุหีบห่อและการดูแลที่ดีระหว่างขนส่งให้ถึงที่หมายอย่างปลอดภัยเช่นกัน
เลือกบริการที่วางใจได้ เลือก Freight Rangers
เลือกบริการที่วางใจได้ เลือก Freight Rangers เพราะเราให้บริการFreight Forwarder คุณภาพ พร้อมประสบการณ์ในธุรกิจโลจิสติกส์มากกว่า 10 ปี ทีมของเราเต็มไปด้วยผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการนำเข้าและส่งออกสินค้ามาหลากหลายรูปแบบ ทำให้มีความรู้ความเข้าใจในการดำเนินการ และพร้อมให้คำปรึกษาสำหรับผู้สนใจเริ่มธุรกิจการนำเข้า-ส่งออกตลอด 24 ชั่วโมง เพียงเลือกเราให้เป็นผู้ช่วยสำหรับธุรกิจนำเข้าต้นไม้ของคุณ ก็วางใจได้เลยว่าแผนงานทุกอย่างจะเป็นไปตามเวลา ไม่มีล่าช้าหรือติดขัดเพราะเรื่องของการขนส่งแน่นอน
หากต้องการนำเข้าต้นไม้ และต้องการคำปรึกษาเบื้องต้น สามารถทักมาพูดคุยกับเราฟรีได้ที่ [email protected] หรือ โทรฯ (+66 ) 27443388